ตัดทอนและเรียบเรียงจากบางส่วนของหนังสือ :
“44 Ways of Supporting Jihad”
Anwar Al-Awlaki
“การญิฮาดในวันนี้คือฟัรฎูสำหรับมุสลิมทุกคน
ดังนั้น ในฐานะมุสลิมผู้หวังในความพอพระทัยจากอัลลอฮฺ
มันย่อมเป็นหน้าที่ของพวกท่านที่จะต้องแสวงหาหนทางที่จะดำเนินการและมีส่วนร่วมในภารกิจนี้”
[อิมาม อันวาร อัล-เอาลากี]
…………………………………………………………………………….
วิธีการเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การญิฮาด
· การเตรียมพร้อมด้านจิตวิญญาณ
ความตกต่ำของมุสลิมไม่ได้มีสาเหตุมาจากความแข็งแกร่งของศัตรู หากแต่มันมาจากความอ่อนแอของพวกเราเอง ดังที่อัลลอฮฺได้กล่าวว่า “และเคราะห์กรรมอันใดที่ประสบแก่พวกเจ้า ก็เนื่องด้วยน้ำมือของพวกเจ้าได้ขวนขวายไว้ และพระองค์ทรงอภัย (ความผิดให้) มากต่อมากแล้ว”[อัช-ชูรอ 42:30]
ดังนั้นการเตรียมความพร้อมด้านจิตวิญญาณจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับภาระอันหนักหนาของดีนนี้ เมื่อท่านนบีมุฮัมมัดศอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมถูกมอบภารกิจอันหนักหน่วงให้ อัลลอฮฺได้สั่งใช้ให้ท่านจัดเตรียมความพร้อมด้านจิตวิญญาณเพื่อจะแบกรับความหนักหน่วงนี้ไว้ให้ได้ โดยพระองค์กล่าวว่า “โอ้ ผู้คลุมกายอยู่เอ๋ย ! จงยืนขึ้น(ละหมาด)เวลากลางคืน เว้นแต่เพียงเล็กน้อย ครึ่งหนึ่งของเวลากลางคืน หรือน้อยกว่านั้นเพียงเล็กน้อย หรือมากกว่านั้น และจงอ่านอัลกุรอานช้า ๆ เป็นจังหวะชัดถ้อยชัดคำ แท้จริงเราจะประทานวจนะ (วะฮียฺ) อันหนักหน่วงแก่เจ้า ”[อัล-มุซซัมมิล 73 :1-5]
เมื่อญิฮาดเป็นภารกิจที่หนักหน่วงที่สุดจากบรรดาคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ มันก็ย่อมต้องการการเตรียมพร้อมที่มากมายนัก
·การเตรียมพร้อมด้านร่างกาย
ท่านร่อซูลศอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า “ผู้ศรัทธาที่แข็งแรงย่อมดีกว่าและเป็นที่รักของอัลลอฮฺมากกว่าผู้ศรัทธาที่อ่อนแอ” [บันทึกโดยมุสลิม]
การฝึกฝนร่างกายให้แข็งแรงนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมสำหรับการญิฮาด สมรภูมิญิฮาดไม่ได้ต้องการนักเพาะกาย หากแต่ต้องการมุญาฮิดีนที่สามารถจะเดินทางไกลติดต่อกันได้เป็นระยะเวลาหลายชั่วโมง สามารถที่จะวิ่งได้เป็นระยะทางยาวไกล(เป็นทักษะสำคัญสำหรับการรบแบบกองโจรในเขตห่างไกล) สามารถที่จะวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง(เป็นทักษะจำเป็นสำหรับสมรภูมิในเมือง) และสามารถที่จะป่ายปีนภูเขาได้ มุญาฮิดีนต้องสามารถปฏิบัติภารกิจที่กล่าวมาได้ในขณะที่แบกสัมภาระอันหนักอึ้ง
ในสมรภูมิญิฮาดอย่างบอสเนียและเชชเนีย บรรดามุญาฮิดีนเคยจำเป็นต้องส่งพี่น้องของเราบางคนที่ไม่มีความพร้อมด้านร่างกายกลับไป เพราะเขาได้ทำให้ทั้งญะมาอะฮฺปฏิบัติการได้ช้าลง นอกจากนั้นคนที่ไม่มีความพร้อมยังมีโอกาสที่จะถูกศัตรูเล่นงานได้ง่ายขึ้นด้วย
แม้กระทั่งมุสลิมที่ไม่ได้ออกไปทำการต่อสู้ การฝึกฝนร่างกายให้มีความแข็งแกร่งก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็น ตัวอย่างเช่นในกรณีของผู้ถูกคุมขัง นักโทษที่มีร่างกายแข็งแรงย่อมสามารถที่จะอดทนต่อการใช้ชีวิตในห้องขังและการถูกทรมานได้ดีกว่าคนที่อ่อนแอ
บรรดาบรรพชนยุคแรกของเราต่างก็มีการฝึกฝนเตรียมความพร้อมด้านร่างกายจนกระทั่งการใช้ชีวิตอย่างนักรบได้กลายเป็นวิถีชีวิตของพวกท่าน ท่านอัมรฺ บิน อาศ ซอฮาบะฮฺผู้พิชิตอียิปต์ในสมัยของคอลิฟะฮฺอุมัรและได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองเมืองอียิปต์ในสมัยนั้นเคยกล่าวในขณะที่ท่านขึ้นคุตบะฮฺวันศุกร์ว่า “ฉันไม่ต้องการจะเห็นว่าใครในหมู่พวกท่านมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ในขณะที่ม้าของเขากลับมีน้ำหนักลดลง หากฉันพบว่าใครทำเช่นนั้น ฉันจะตัดเงินเดือนเขา”
พี่น้องที่รัก การฝึกฝนร่างกายด้วยเจตนาที่ถูกต้องนับเป็นหนึ่งในการอิบาดะฮฺ พี่น้องมุสลิมะฮฺก็ไม่ได้มีข้อยกเว้นสำหรับเรื่องนี้ และสังคมมุสลิมควรที่จะต้องจัดหาทางเลือกในการออกกำลังกายที่ฮะลาลไว้ให้แก่พวกเธอด้วย
·ให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ที่จำเป็นแก่มุญาฮิดีน
มุญาฮิดีนมีความต้องการผู้ช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างมาก พวกเขาต้องการหมอ ต้องการโรงพยาบาลและคลีนิคที่จะเปิดประตูต้อนรับพวกเขา และพวกเขาต้องการยา ที่จริงแล้วเรามีหมอมุสลิมอยู่เป็นแสนๆคน แต่เราก็ยังคงต้องฟังเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับมุญาฮิดีนที่บาดเจ็บและต้องทนต่อความเจ็บปวดของบาดแผลเพราะว่าพวกเขาขาดแคลนหมอและยา จนสุดท้ายพวกเขาก็ต้องเสียชีวิตลงเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
มุสลิมผู้กำลังศึกษาในวิชาชีพแพทย์และมักกล่าวเสมอว่าพวกเขากำลังเรียนสิ่งนี้ในหนทางของอัลลอฮฺเพื่อก่อประโยชน์แก่พี่น้องมุสลิม เราขอถามพวกเขาว่า “พวกคุณอยู่ที่ไหน?”
เล่ากันว่าค๊อฏฏ็อบ-แม่ทัพมุสลิมผู้ยิ่งใหญ่แห่งเชชเนียเคยได้รับบาดเจ็บในสมรภูมิ แต่บรรดามุญาฮิดีนที่เหลือไม่สามารถหาหมอมุสลิมที่จะรักษาเขาได้ พวกเขาจึงจำต้องนำเขาไปยังสถานกาชาดและให้คนพวกนั้นรักษาเขาท่ามกลางปืนของมุญาฮิดีนที่ถูกประทับตั้งเป้าอยู่รอบๆเพื่อระวังภัย!
มุสลิมผู้ทำงานด้านการรักษาพยาบาลจะต้องแบกรับความผิดชอบที่ใหญ่หลวง และหน้าที่ของพวกเขาต่อสมรภูมิญิฮาดนั้นเป็นสิ่งที่จะขาดเสียไม่ได้ บางที รางวัลที่พวกเขาจะได้รับอาจยิ่งใหญ่กว่าบรรดาผู้ต่อสู้ก็ได้-วัลลอฮุอะอฺลัม
·สร้างเว็บไซต์เกี่ยวกับการญิฮาด
อินเตอร์เน็ตได้กลายเป็นสื่อกลางที่สำคัญยิ่งในการเผยแพร่เสียงเรียกแห่งญิฮาด ตลอดจนข่าวสารของบรรดามุญาฮิดีน บางวิธีการที่พี่น้องทั้งมุสลิมีนและมุสลิมะฮฺสามารถที่จะใช้เพื่อเป็น ‘มุญาฮิดีนในสนามอินเตอร์เน็ต’ ก็คือการมีส่วนรวมในสิ่งที่เราจะแนะนำต่อไปนี้บางประการหรือหลายประการ
– สร้างเว็บบอร์ด/ฟอรั่มที่เป็นอิสระขึ้น โดยจะไม่มีการเซ็นเซอร์ข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการญิฮาด
– สร้างเครือข่ายบัญชีรายชื่อทางอีเมลเพื่อแบ่งปันและแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการญิฮาดในระหว่างพี่น้องที่มีความสนใจ
– โพสหรือส่งอีเมลข้อมูลข่าวสารและงานเขียนที่เกี่ยวข้องกับการญิฮาด
– สร้างเว็บไซต์ที่มุ่งนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวข้องกับการญิฮาดโดยเฉพาะอย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารของมุญาฮิดีน พี่น้องมุสลิมผู้ถูกคุมขัง รวมถึงบทความต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการญิฮาด เป็นต้น
· เข้าร่วมญะมาอะฮฺที่ทำงานเพื่อการญิฮาด
การทำงานเป็นญะมาอะฮฺนับเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมุสลิมในวันนี้ เพราะการประกาศใช้กฏหมายของอัลลอฮฺซึ่งเป็นภารกิจของเราจะไม่อาจกลับคืนมาได้โดยปราศจากญะมาอะฮฺ แต่เพราะทุกวันนี้มีกลุ่มทำงานเพื่ออิสลามมากมายเกิดขึ้น คำถามก็คือแล้วเราควรจะเข้าร่วมกับกลุ่มไหนดี?
คำตอบก็คือ เมื่อญิฮาดเป็นการงานอันสูงส่งที่สุดหลังจากการศรัทธาในอัลลอฮฺ ทั้งยังเป็นการงานที่มีความจำเป็นมากที่สุดในภารกิจของเราวันนี้ จึงจำเป็นที่ท่านจะต้องเข้าร่วมกับญะมาอะฮฺที่มีญิฮาดเป็นเป้าหมายหลักของการดำเนินงาน นั่นก็เพราะว่าเวลาแห่งการญิฮาดได้มาถึงแล้วนับตั้งแต่มีการฮิจเราะฮฺของท่านรอซูลศอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ญะมาอะฮฺที่บรรดาซอฮาบะฮฺได้เข้าร่วมก็ล้วนเป็นญะมาอะฮฺที่เจาะจงเอาการญิฮาดเป็นความมุ่งหวัง ประวัติศาสตร์ได้บอกให้เราทราบว่าท่านรอซูลได้เข้าร่วมสงครามด้วยตัวเองถึง 9 สงคราม และส่งสาวกของท่านออกไปสู้รบอีก 55 สมรภูมิ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาเพียงสิบปี และเราก็จะพบปรากฏการณ์เช่นเดียวกันนี้ในสมัยของคุละฟาฮฺอัรรอชิดีนภายหลังจากท่าน
· หลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตที่สุขสบาย
ชัยคฺ อับดุลลอฮฺ อัซซามเคยกล่าวไว้ว่า “ความหรูหราสุขสบายคือศัตรูของการญิฮาด”
แท้จริงภารกิจแห่งการญิฮาดนั้นยากลำบากและต้องการความเสียสละ ดังนั้นการหลีกเลี่ยงจากวิถีชีวิตที่สุขสบายจะช่วยขจัดอุปสรรคบางประการที่ยืนคั่นกลางระหว่างเรากับการญิฮาด ท่านต้องสามารถที่จะนอนบนพื้นแข็งๆได้ สามารถที่จะทานอาหารนอกเหนือจากที่แม่และภรรยาทำให้ทานได้ สามารถใช้น้ำเย็นเฉียบอาบน้ำละหมาดและอาบน้ำยกหะดัษได้ และต้องไม่รู้สึกอะไรมากนักหากไม่สามารถจะอาบน้ำได้ทุกวัน
พี่น้องที่มีความมุ่งหมายอยากจะเป็นมุญาฮิดยังจะต้องมีความสามารถที่จะควบคุมความปรารถนาและปฏิเสธความต้องการของนัฟซูตัวเอง ท่านควรจะต้องเปลี่ยนแปลงนิสัยบางประการของตัวเองด้วย เป็นต้นว่านิสัยในการกินและการนอน โดยควรจะแทนที่มันด้วยการถือศีลอดซุนนะฮฺและการละหมาดกิยามุลลัยลฺ มุญาฮิดีนที่แท้จริงจะต้องตัดขาดจากความผูกพันต่อโลกนี้ได้ในหนทางของอัลลอฮฺ
· เลี้ยงดูลูกๆให้มีความรักในการญิฮาดและรักบรรดามุญาฮิดีน
ลูกๆของเราจำเป็นจะต้องถูกเลี้ยงดูด้วยความรักต่อการญิฮาดและมุญาฮิดีน เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับการญิฮาดในประวัติศาสตร์ควรจะถูกเล่าขานให้พวกเขาฟัง เราควรจะให้เขาเติบโตขึ้นมาด้วยเรื่องราวของท่านอลี บิน อบีฏอลิบ, อบูอุบัยดะฮฺ, ซะอฺด บิน อบีวักก๊อศ, มุฮัมมัด อัล-ฟาติฮฺ, ซอลาฮุดดีน และคนอื่นๆ เช่นเดียวกับที่พวกเขาควรจะมีความชื่นชมบรรดาผู้นำการญิฮาดในทุกวันนี้ นอกจากนั้นแล้วพวกเขาควรจะถูกสอนให้มีความชิงชังต่อฟิรอูน กอรูน และอบูญะฮัล เช่นเดียวกับที่พวกเขาควรจะชิงชังฟิรอูน กอรูน และอบูญะฮัลของยุคสมัยเรา
ลูกๆของเราไม่ควรจะถูกสอนว่า “จงหลีกห่างจากปัญหาแล้วทำตัวเป็นเด็กดี” แต่พวกเขาควรจะถูกสอนว่า “จงทำในสิ่งที่ถูกต้องแม้ว่ามันจะนำปัญหามาสู่ลูกก็ตาม”
ท่าน ซุเบร บิน เอาวาม หนึ่งในซอฮาบะฮฺผู้ได้รับการแจ้งข่าวดีด้วยสวนสวรรค์ เคยนำอับดุลลอฮฺลูกชายของท่านที่ยังเป็นเด็กออกไปสู้รบในสมรภูมิด้วย แต่เพราะขณะนั้นอับดุลลอฮฺยังเด็กเกินไปที่จะสู้กับศัตรู พ่อของเขาจึงมอบมีดด้ามเล็กๆให้เขาหนึ่งด้าม โดยที่อับดุลลอฮฺจะถือมันเดินไปทั่วสนามรบเพื่อมองหาศัตรูที่กำลังบาดเจ็บ แล้วส่งพวกเขากลับไปพบพระเจ้าของพวกเขาด้วยมีดเล่มนั้น ต่อมาลูกชายคนนี้ของท่านซุบัยรฺก็ได้เติบโตขึ้นมาเป็นแม่ทัพที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของอุมมะฮฺนี้
แม้ว่าการออกไปร่วมรบในสมรภูมิญิฮาดจะเป็นเรื่องที่มุ่งเน้นสำหรับผู้ชายเป็นหลัก แต่พี่น้องมุสลิมะฮฺของเราก็จำเป็นจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตแบบมุญาฮิดซึ่งสามีของเธอได้ใช้ เธอจำเป็นต้องสนับสนุนเขาให้ออกไปญิฮาด สงบมั่นคงหากเขาได้เป็นชะฮีด และอดทนหากเขาถูกจับเข้าคุก
· เตรียมพร้อมสำหรับการฮิจเราะฮฺ
มุสลิมที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางผู้ไม่ใช่มุสลิมไม่ควรจะพอใจที่จะมีชีวิตอยู่ท่ามกลางกุฟฟารเหล่านั้น พวกเขาควรจะเตรียมพร้อมสำหรับจะจากดินแดนที่เขาอยู่อาศัยไปได้เสมอหากว่าโอกาสมาถึง การเตรียมพร้อมเพื่อจะฮิจเราะฮฺไม่ได้เป็นเรื่องเจาะจงเฉพาะมุสลิมที่อยู่ในดินแดนที่ไม่ใช่มุสลิมเท่านั้น แต่มันควรจะเป็นสิ่งที่มุสลิมทั้งมวลยึดถือปฏิบัติ เพราะการญิฮาดต้องการการฮิจเราะฮฺ
·ศึกษาภาษาอาหรับ
ภาษาอาหรับเป็นภาษาสากลของการญิฮาด บทความศาสนาเกี่ยวกับการญิฮาดจำนวนมากเป็นภาษาอาหรับ และผู้ที่ทุ่มเทเวลาและเงินทองที่จะแปลมันอย่างจริงจังก็มีแต่บรรดาองค์กรและหน่วยงานทางวิชาการต่างๆของตะวันตก แย่ตรงที่พวกเขาไม่คิดจะแบ่งปันข้อมูลเหล่านั้นให้แก่พวกท่าน
ภาษาอาหรับยังเป็นภาษาสำหรับมุญาฮิดีนต่างชาติในทุกสมรภูมิญิฮาด ดังนั้นหากท่านพูดมันไม่ได้ ท่านก็คงจะทำได้แต่เพียงพูดคุยกับตัวเองในสนามรบ
มันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมุญาฮิดีนที่จะต้องมีภาษาที่เป็นกลางในการสื่อสารกัน และภาษาอาหรับก็คือภาษาที่ถูกเลือกมาแล้วสำหรับการนั้น
·แปลบทความเกี่ยวกับการญิฮาดเป็นภาษาต่างๆ
ดังที่กล่าวไปแล้วว่าจำนวนมากของบทความในหัวข้อเกี่ยวกับการญิฮาดนั้นอยู่ในรูปของภาษาอาหรับ พี่น้องทั้งมุสลิมีนและมุสลิมะฮฺที่สามารถใช้ภาษาอาหรับได้ จึงควรแปลงานเขียนเหล่านั้นออกมาในภาษาของตน
ทุกขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อการเปลี่ยนแปลงจำเป็นจะต้องมีความเคลื่อนไหวทางปัญญาก่อนเป็นลำดับแรก กล่าวกันว่ายุคสมัยของซอลาฮุดดีนเกิดขึ้นได้ก็เพราะความแพร่หลายของงานเขียนเกี่ยวกับการญิฮาดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น และเราก็กำลังมองเห็นปรากฏการณ์นั้นเกิดขึ้นอยู่ในวันนี้
………………………………………………………………………………………………………………………..
– ดาวน์โหลดหนังสือ“44 Ways of Supporting Jihad”
Word File Click Here Pdf File Click Here
– มีหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่เป็นเรื่องเดียวกัน เพียงแต่ฉบับของอิมามอันวารที่เอามานำเสนอนี้ได้เพิ่มเติมข้อมูลลงไป สามารถอ่านหัวข้อคร่าวๆของหนังสือที่มีพี่น้องแปลไว้แล้วได้ที่ >> Al-Istishhad : 39 Ways to Serve and Participate in Jihad