-ฤดูกาลแห่งการทบทวน-


อาจเพราะเราะมะฎอนเป็นคล้ายฤดูกาลหนึ่งที่จะเวียนมาบรรจบทุกปี พอใกล้จะถึงฤดูกาลนี้ทีเราหลายคนก็จะหยิบยกหลากหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องขึ้นมาพูดคุยเพื่อเตรียมการต้อนรับให้สมเกียรติ  ฉะนั้นไม่ว่าจะดึงหัวข้ออะไรก็ตามเกี่ยวกับเราะมะฎอนขึ้นมาพูด มาเขียน มาบรรยาย ก็เป็นไปได้มากที่จะเป็นเรื่องซ้ำซ้อน หรือมีใครสักคนพูดมาก่อนแล้ว  เหมือนฉายหนังซ้ำทุก ๆ ปี แต่ก็เป็นหนังที่ทุกคนยินดีจะชม (หวังว่าอย่างนั้น)


โดยส่วนตัวแล้วไม่เคยเบื่อที่จะฟังเรื่องเกี่ยวกับเราะมะฎอน โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่เดือนอันน่ารักนี้จะมาถึง หนังสือเกี่ยวกับเราะมะฎอนและการถือศีลอดก็ไม่เคยทำให้รู้สึกซ้ำซากจำเจทั้งที่อ่านซ้ำไปซ้ำมาจนแทบจะฮาฟิซ มันเป็นความรู้สึกพิเศษแสนดีที่เราจะมีต่อช่วงเวลาหนึ่งได้  และขอโมเมว่าพี่น้องคนอื่นก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน ฉะนั้นวันนี้เราจะมาคุยกันถึงเรื่องนี้อีกครั้ง และในประเด็นที่ไม่มีอะไรใหม่ นอกจากลมหายใจของพวกเรา นั่นคือเรื่องเรามะฎอนกับการใคร่ครวญชีวิต


ถ้าสถาปนาเราะมะฎอนเป็นฤดูกาลแห่งการตรวจสอบชีวิตอย่างถึงแก่น เราจะพบว่าการได้มองย้อนกลับไปยังช่วงเวลาระหว่างวันสุดท้ายของเราะมะฎอนปีที่แล้วกระทั่งถึงวันแรกของเราะมะฎอนปีนี้ ช่างเป็นอะไรที่ให้ความรู้สึกลึกล้ำนัก  มันเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย ทั้งเจ็บปวดและแสนสุข มีรอยยิ้มและหยดน้ำตา  มีการสูญเสียและได้มา มีการพบพานและจากลา หลายชีวิตถูกเรียกกลับไป เราะมะฎอนที่แล้วเป็นเราะมะฎอนสุดท้ายในชีวิตของพวกเขาโดยไม่มีใครรู้ล่วงหน้า และหลายชีวิตก็เกิดขึ้นมาและจะมีเราะมะฎอนนี้เป็นเราะมะฎอนแรกของชีวิตพวกเขา แม้ยังไม่อาจสัมผัสความพิเศษของช่วงเวลานี้ได้ด้วยความอ่อนเยาว์ แต่พวกเขาก็คือผู้มีชีวิตอยู่จนได้พบกับมัน สำคัญนะคะการทบทวนการเดินทางของชีวิตเราในรอบปีที่ผ่านมานี่ มันทำให้เราได้รู้ว่าคำสัญญาที่ได้เคยให้กับตัวเองไว้เมื่อตอนจบเราะมะฎอนที่แล้ว ว่าจะเป็นคนดีอย่างนู้น เป็นบ่าวที่น่ารักอย่างนี้  เราได้รักษาสัญญาแค่ไหน สัจจริงต่อตัวเองหรือตลบตะแลง เราวัดตัวเองได้ด้วยการทบทวนนี้


ใช่แหละค่ะ มันน่าตีที่เราไม่ได้ทำตัวน่ารักอย่างที่ตั้งใจไว้ มีช่วงเวลาที่เราหลุด เราพลาด มีเหตุการณ์ที่น่าส่ายหัวไปจนถึงน่าเขกหัว แต่มันอาจถึงขั้นน่าตัดหัวถ้าแม้แต่ในเราะมะฎอนเราก็ยังไม่ยอมกลับมาทำตัวให้ดีให้น่ารัก อย่าให้ความผิดพลาดในรอบปีที่ผ่านมาทำให้เราไม่กล้าที่จะเริ่มใหม่ในเราะมะฎอนนี้ เท่าๆกับที่อย่าให้ความผิดพลาดของเราทำให้เราพร้อมที่จะผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีกหลังเราะมะฎอนจบลง


จงใช้เราะมะฎอนเป็นช่วงเวลาแห่งการตรวจสอบชีวิต อย่าปล่อยให้ความผิดพลาดลอยนวลโดยไม่ได้รับการแก้ไข หรือทำให้เราสิ้นหวังในตัวเองมากไปจนพาลสิ้นหวังในอัลลอฮฺไปด้วย “และไม่มีผู้ใดจะสิ้นหวังในความเมตตาของพระผู้อภิบาลของเขา นอกจากบรรดาผู้หลงผิด” (อัลฮิจญร์ 56:15)


ในรอบปีที่ผ่านมา อาจมีอมานะฮฺหลายชิ้นที่เราละเลย มีคนหลายคนที่เราทำหล่นหายไปจากชีวิตและจากดุอาอฺ มีความดีหลายอย่างที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดเจตจำนง มีความผิดหลายประการที่ตกหล่นไปจากการเตาบะฮฺ และมีอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่างที่เราหลงลืมไป เราะมะฎอนเป็นโอกาสอันดียิ่งที่เราจะได้ทบทวนเรื่องราวเหล่านี้ เพื่อจะวอนขอในเดือนแห่งการตอบรับ และเพื่อจะเตาบะฮฺในเดือนแห่งการอภัยโทษ


การทบทวนเป็นกิจการภายใน เป็นกิจกรรมของหัวใจ ซึ่งก็เหมือนกิจกรรมอื่น ๆ ที่จะทำให้อวัยวะที่ประกอบกิจกรรมนั้นมีพัฒนาการ  ดังนั้นการทบทวนชีวิตที่ผ่านมาและเรื่องราวของมันจึงไม่ได้มีประโยชน์ต่อเฉพาะการทำความเข้าใจอดีตที่ล่วงผ่าน แต่ยังจะส่งผลดีต่อปัจจุบัน ต่อการงานอีกมากมายที่เราจะทำในเราะมะฎอนนี้และในชีวิตนี้ซึ่งล้วนต้องใช้หัวใจที่ดีงามเป็นหัวแรงสำคัญ หัวใจที่ได้รับการขัดเกลาและพัฒนาผ่านการใคร่ครวญเรื่องราวต่างๆอย่างมีสติจึงเป็นหัวใจที่ช่วยเหลือเราในการใช้ชีวิตได้มากมายกว่าที่คิดนัก


ฤดูกาลแห่งการทบทวนตัวเองมาถึงแล้ว โอ้ชีวิตที่เดินทางเหน็ดเหนื่อยมาทั้งปีและไม่มีกระทั่งเวลาจะคุยกับตัวเอง พักลงตรงนี้สักครู่เถิด!