+แม่กับผู้ชายที่หลงรักมักกะฮ์

Inside-Kaabah

 

-1-

เป็นที่รู้กันว่า “ฮัจญ์” เป็นหนึ่งในความฝันสูงสุดของชีวิตแม่

แม่อ่านหนังสือทุกเล่มเกี่ยวกับฮัจญ์ที่มีในท้องตลาด

และเฝ้ากำชับให้ใครต่อใครช่วยขอดุอาอ์ให้เสมอ นอกเหนือจากที่ตัวแม่เองก้็ขออย่างเต็มแรง

แต่กว่าชีวิตจะอนุญาติให้แม่ได้คิดเรื่องนี้จริงจังก็เมื่อลูกชายคนเล็กเข้าโรงเรียนประจำ

และความพร้อมในด้านอื่นๆ เริ่มมองเห็นชัดเจนขึ้น

นั่นก็เป็นช่วงปีที่มีผู้ชายอีกคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตแม่พอดี

-2-

คุณต้องเคยได้ยินคนที่เคยไปฮัจญ์หรืออุมเราะฮ์ทำตาลอยเหมือนฝันหวานขณะพูดถึงความน่ารักน่าอยู่ของมะดีนะฮ์

แต่กับมักกะฮ์ หลายครั้ง…น้ำเสียงจะต่างไป

แน่นอนว่าความประเสิรฐของมัสญิดฮะรอมนั้นทุกคนยอมรับเต็มหัวใจ

แต่ความพลุกพล่านของผู้คน การก่อสร้างทื่ยืดเยื้อยาวนาน ระบบการจราจรที่ให้นิยามลำบาก และอะไรอีกหลายเรื่องก็ทำให้เราได้พบคนทำตาลอยอย่างหลงใหลเวลาพูดถึงเมืองมักกะฮ์ในภาพรวม ไม่ใช่แค่ตัวมัสญิดฮารอม น้อยครั้งกว่าคนที่มีท่าทางเช่นนั้นเวลาพูดถึงเมืองมะดีนะฮ์

คนแรกๆ ที่ชั้นได้เห็นท่าทางเช่นนั้นเมื่อพูดถึง “เมือง” มักกะฮ์ ก็คือ “เขา”

…ผู้ชายที่การได้พูดถึงมักกะฮ์และช่วงชีวิตสั้นๆ ที่เขาเคยได้ใช้ไปในเมืองนี้คือความสุขอย่างสำคัญประการหนึ่งในชีวิตเขา

…ผู้ชายที่ทำตาเขียวใส่ได้เสมอแค่เผลอพูดอะไรที่ไม่ใช่แง่งามของมักกะฮ์

ตอนที่เกิดเหตุเครนล้มในช่วงฤดูฮัจญ์สองปีก่อน เรากำลังฏอวาฟอยู่ด้วยกันที่ลานฏอวาฟชั้นล่างสุด…จุดที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุด แม้ไม่ได้มองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างจะจะ แต่เราก็มีส่วนได้สัมผัสบรรยากาศของเหตุการณ์นั้นโดยตรง (ซึ่งซุบฮานัลลอฮฺมากที่สิ่งที่เราได้พบค่อนข้างจะต่างไปจากภาพที่เหตุการณ์นำไปสู่คนภายนอก เสียงตักบีรของเหล่าฮุจญาจที่ติดพายุฝนอยู่รอบกะอ์บะฮ์ในเวลานั้นซึ่งเป็นเย็นวันศุกร์อันประเสริฐยังกระหึ่มอยู่ในหูของฉันจนวันนี้)

เขาไม่เคยบอกใครว่าเราอยู่ตรงนั้นในเวลานั้น เมื่อฉันถาม เขาบอกว่า…ถ้าเราเข้าไปเยี่ยมบ้านของคนๆหนึ่งที่เราเคารพอย่างมาก แล้วเกิดเหตุบางอย่างขึ้นในบ้านหลังนั้น เราย่อมไม่มีทางเอาเรื่องที่ได้พบมาบอกเล่ากับผู้คนทั่วไปอย่างสนุกปาก…จริงไหม?

อาจด้วยความผูกพันที่เขามีต่อเมืองนี้ ด้วยดุอาอ์ หรือด้วยอะไรอีกหลายอย่าง ทำให้ตั้งแต่ฉันรู้จักเขามาร่วม 5 ปี อัลลอฮ์ก็พาเขากลับไปยังเมืองที่เขารักทุกๆปี (อัลฮัมดุลิลลาฮฺ)

นั่นก็รวมถึงปีหนึ่ง…ที่เราวางแพลนกันไว้ด้วยหัวใจพองโตว่า…จะพาแม่ไปด้วย

-3-

การที่ผู้หญิงสักคนจะมีมะฮ์รอมในชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นเรื่องใหญ่

น่าสนใจมากว่าแม่ยายกับลูกเขยจะเป็นมะฮ์รอม (ห้ามแต่งงาน) กันตลอดกาล แม้เมื่อความสัมพันธ์ฉันคู่ครองระหว่างลูกเขยกับลูกสาวจะจบลง

สำหรับคนที่มีแม่อยู่ในหัวใจเสมอ คงไม่สามารถลืมได้ขณะที่กำลังจะตัดสินใจเลือกใครสักคนมาร่วมชีวิตว่า

เรากำลังเลือกลูกชายอีกคนให้แม่ของเราด้วย

ความพอใจของพ่อแม่จึงเป็นสิ่งที่มีน้ำหนักมากในการชั่ง-ตวง-วัด คุณสมบัติของคนที่เข้ารอบ

และความพอใจอันนี้มีผลอย่างสุดๆ ต่อความจำเริญที่จะเกิดขึ้นในชีวิตคู่

 

ตอนที่แม่ต้องนอนรักษาตัวยาวที่โรงพยาบาล

เขาอำนวยความสะดวกทุกอย่างเพื่อให้ฉันได้ไปอยู่โยงเฝ้าแม่

เขาไม่เคยพลาดโอกาสที่จะป็นคนรับ-ส่งแม่ไปโรงพยาบาล หากว่าตารางงานที่แน่นเอี้ยดพอจะจัดสรรได้

หลายครั้งเค้าต้องหอบงานมาทำในโรงพยาบาล  ขับรถอ้อมไปอ้อมมาทุกเช้าเย็นในเมืองที่เพียงแต่มองสภาพท้องถนนก็เพลียใจ เพียงเพื่อให้ฉันได้ใช้เวลากับแม่อย่างเต็มที่

ในช่วงท้ายๆ ของชีวิต แม่บอกกับฉันว่า “ต้องคิดว่าเขาเป็นลูกชายแท้ๆ ไม่ใช่แค่ลูกเขย ไม่งั้นจะไม่กล้ารบกวนเขาถึงขนาดนี้”

และแม้เมื่อแม่จากไปแล้ว…วันนี้ เขาคือคนที่ได้ทำภารกิจที่เป็นเสมือนความหวังสูงสุดของชีวิตแม่ให้เป็นจริง

….

-4-

ตอนที่แม่รู้ว่าโรคร้ายได้กลับมาอีกครั้ง  ในตำแหน่งที่อาจหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม

ประโยคแรกๆ ที่แม่ถามคือ “อุมมีจะได้ไปฮัจญ์ไหม”

ตอนนั้นเราเอาชื่อแม่ไปลงบัญชีผู้แจ้งความจำนงไปฮัจญ์ไว้แล้ว  และกำหนดเดินทางอย่างคร่าวๆก็ออกมาแล้วว่าเราจะได้ไปในปีนั้น อินชาอัลลอฮ์

แม้ความหวังริบหรี่ แต่ตอนแรกเราก็ยังให้กำลังใจแม่ว่าถ้ากระบวนการรักษาจบทัน และหมออนุญาต เราก็จะพาแม่ไป

แต่ผ่านไปไม่ถึงครึ่งทาง รายละเอียดของกระบวนการรักษาก็ทำให้เราแน่ใจว่าแม่คงไม่สามารถร่วมเดินทางไปกับเราได้

แม้แจ้งถอนชื่อออกจากบัญชีฮุจญาจของปีนั้น ด้วยความหวังว่าในปีต่อๆไป จะต้องมีสักปีที่มีชื่อท่านอยู่ในเหล่าแขกของอัลลอฮ์

แต่แล้วแม่ก็จากไปก่อนกำหนดเดินทางของเราเพียง 10 วัน

กำหนดที่เคยมีแม่อยู่ในชื่อผู้ร่วมเดินทาง…สู่ดินแดนที่เป็นรักและหวังสูงสุดของแม่

….

-5-

วันหนึ่งในปีที่สองหลังการจากไปของแม่ เขาถามขึ้นมาว่า “คิดยังไง ถ้ามีคนจะให้อุมมีไปทำฮัจญ์”

ตอนแรกยังงงๆว่าเขาหมายถึงอะไร

แล้วก็ค่อยแจ่มแจ้งเมื่อรู้ว่าเขาจะกลับไปยังเมืองที่เขาหลงรักอีกครั้งในฐานะฮุจญาจ

ตามหลักการแล้ว เราสามารถทำฮัจญ์แทนคนที่เสียชีวิตไปแล้วที่ยังไม่เคยไปทำฮัจญ์ได้

โดยที่คนไปทำฮัจญ์แทนจะต้องเคยทำฮัจญ์วาญิบของตัวเองมาก่อนแล้ว

ในกรณีของบุพการี…การไปทำฮัจญ์แทนท่านนับเป็นการทำความดีต่อพ่อแม่ประการสำคัญหลังท่านเสียชีวิต

และเขาได้รับเลือกให้ทำหน้าที่นั้น….ลูกชายคนใหม่ของแม่

หน้าที่ที่จะได้ทำให้ความใฝ่ฝันของแม่เป็นจริง

-6-

เรื่องราวเกี่ยวกับฮัจญ์เป็นเรื่องราวที่มหัศจรรย์มาก

ทั้งในภาพรวมของบทบัญญัติ และประสบการณ์เฉพาะบุคคลทีได้สัมผัส

เราทุกคนล้วนมี  Hajj Story ของตัวเอง

แม้กับคนที่ไม่เคยไปฮัจญ์ การรอคอยของเขา หัวใจที่ถวิลหาอย่างรุนแรง…ล้วนเป็นรายละเอียดหนึ่งใน Hajj Story ของตัวเอง

ที่จะช่วยเติมเต็มความอิ่มเอิบในวันที่เขาได้ออกเดินทางไปสุ่ดินแดนศํกดิ์สิทธิ์จริงๆ

และแม้ว่าเขาจะจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้ออกเดินทางจริง

หัวใจที่มีฮัจญ์จดจารอยู่ย่อมมีคุณค่า ทุกดุอาอ์ที่พร่ำขอให้ได้ไปเยี่ยมบ้านของพระองค์ย่อมไม่สูญเปล่า

เราไม่มีทางรู้เลยว่าอัลลอฮ์เตรียมอะไรไว้ให้เรา

สิ่งเดียวที่แน่ใจได้เสมอคือ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร มันก็คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา

 

เหมือนผู้หญิงคนหนึ่งที่มีฮัจญ์อยู่เต็มหัวใจ

แต่ฮัจญ์ของเธอก็เกิดขึ้นหลังจากที่เธอหมดลมหายใจ

ขออัลลอฮ์ให้ฮัจญ์ของเธอนั้นมับรูร…ผู้หญิงที่มีความใฝ่ฝันสูงสุดของชีวิตอยู่ที่มักกะฮ์

และขออัลลอฮ์ตอบแทนเขาด้วยการตอบแทนสำหรับฮัจญ์มับรูร…ผู้ชายที่หลงรักมักกะฮ์

ใส่ความเห็น